15 Dec 2010

ข้อควรรู้เกี่ยวกับอาหารเสริม




        ทุกวันนี้คนเราเจอกับมลภาวะตั้งแต่ อากาศที่หายใจ อาหารที่รับประทาน น้ำที่ดื่มทุกวัน ก่อให้เกิดปัญหาอนุมูลอิสระสะสมในร่างกาย เป็นประจำทุกวันแบบไม่รู้ตัว หนำซ้ำอาวุธที่มนุษย์มีไว้ต่อต้านอนุมูลอิสระจากธรรมชาติ ก็ร่อยหรอลงไปทุกที จะหาผักผลไม้ปลอดสารพิษได้จากที่ไหนแร่ธาตุในดินที่ลดลงไปเรื่อยๆ จะทำให้ผลไม้มีคุณค่าเพียงพอได้อีกกี่ปีเศรษฐกิจซบเงินซื้อผลไม้ก็ดูจะกลายเป็นของฟุ่มเฟือยสำหรับบางครอบครัว หลากหลายปัญหาที่ทำให้มนุษย์เป็นโรคเสื่อม ทั้งเกิดจากภายนอกและจากภายในคือความเครียดจากการทำงานก็ก่อให้เกิดปัญหากับ ระบบร่างกายเช่นเดียวกัน วันนี้อาจจะยังแข็งแรงอยู่ แต่ทุกอย่างมันกำลังก่อร่างสร้างตัวอยู่ในร่างกายของคุณนั่นเอง เมื่อใดเม็ดเลือดขาวขาดภูมิต้านทาน เมื่อนั้นก็จะแสดงอาการออกมา

        สารอาหารบำบัดหรือที่ในบ้านเราเรียก กันว่า ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร นั้นดูหลายคนจะขยาดและอยากวิ่งหนีเมื่อได้ยินคำนี้ เพราะทราบว่าต้องเสีย เงิน… จริงๆ แล้วมันเป็นสิ่งจำเป็นอย่างยิ่ง ในการป้องกันและแก้ไขเราจากโรคเสื่อมต่างๆ ที่มีอันดับการตายเป็นอันดับ 1 – 10 อยู่ทุกๆ ปี เช่น โรคหัวใจโรคมะเร็งโรคไขข้อโรคหลอดเลือดอุดตันโรคเบาหวานฯลฯ อีกสารพัด สาเหตุหลักที่เกิดโรคพวกนี้ขึ้นก็เพราะ เซลล์อ่อนแอ” หรือ “เซลล์ขาดอ็อกซิเจน เพราะสู้รบกับอนุมูลอิสระไม่ไหวนั่นเอง จึงเป็นสาเหตุที่เราต้องมอง อาหารเสริม” เพื่อป้องกันโรคเสื่อมที่สะสมอยู่ในร่างกาย

ทำไมต้องใช้สารอาหารเสริม ?
นพ.เรย์ ดี สแตรนด์ (Ray D. Strand, M.D.)
แพทย์ผู้เชียวชาญ และผู้แต่งหนังสือ 
เมื่อคุณหมอไม่รู้จักอาหารเสริม ความตายอาจ กำลังครอบงำคุณและ ใบสั่งยา อาจฆ่าคุณ ทำการวิจัยเกือบ 10 ปี พบว่าคุณประโยชน์ของ อาหารเสริม” ที่มีคุณภาพสูง สามารถช่วยให้ร่างกายมีสมรรถภาพต่างๆ คือ
1.            เพิ่มภูมิต้านทานโรค
2.            เพิ่มศักยภาพให้ Antioxidant สารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยป้องกันความเสื่อม ความชรา และมะเร็ง
3.            ลด ความเสี่ยงต่อโรคหัวใจและหลอดเลือด โรคลมปัจจุบัน มะเร็ง ข้ออักเสบ ความเสื่อม ต้อกระจก อัลไซเมอร์ พาร์กินสัน ภูมิแพ้ หืด โรคปอด โรคจากความเสื่อมเรื้อรัง
4.            ช่วยรักษาโรคที่มีความเสื่อมเริ้อรัง
จากข้อมูลในหนังสือของคุณหมอเรย์ ดี สแตรนด์ ได้มีข้อมูลยืนยันว่า นักศึกษาแพทย์ได้เรียนทางด้านโภชนาการ หรือเรื่องสารอาหารน้อยมาก แค่ไม่กี่ชั่วโมงเท่านั้น จากการเรียนแพทย์ถึง ปี ส่วนใหญ่จะเรียนแต่เรื่องยากับการผ่าตัด ดังนั้นคุณหมอ 95% ในโลกนี้จะไม่มีความรู้เรื่องของอาหารเสริมเลย และจะบอกกับท่านว่า ทานอาหารให้ครบ หมู่ ก็พอแล้ว” ส่วนเหตุผลที่ควรจะทาน ให้ตอบคำถามด้านล่างเหล่านี้ดู 
ถ้า...คุณตอบว่า...ใช่  ในข้อใดข้อหนึ่ง คุณสมควรทาน อาหารเสริม
1.            คุณไม่ได้กินอาหารดีๆ มีประโยชน์ทุกมื้อ เช่น ข้าวกล้อง ธัญพืช ผัก และผลไม้สดอินทรีย์ (ไร้สารพิษ 100%) เต้าหู้ สาหร่ายทะเล ปลา และอาหารทะเลไร้สารพิษ เป็นต้น
2.            คุณไม่ได้ทานผักครบ สีทุกมื้อ หรือทานผักผลไม้ครบ กิโลกรัมทุกวัน (หรือ 80% ใน วัน)
3.            คุณทานอาหารประเภททอด ปิ้ง ย่าง ผัด เป็นส่วนใหญ่ และใช้ความร้อนกับน้ำมันพืชเกิน 60 องศาเซลเซียส (ก่อให้เกิดอนุมูลอิสระมหาศาลตั้งแต่กระบวนการทำอาหาร จนถึงรับประทานเข้าไป)
4.            คุณไม่ได้ออกกำลังกายอย่างน้อยสัปดาห์ละ ครั้งขึ้นไป
5.            คุณอยากมี “สุขภาพดี 120 ปี ไม่มีป่วย หรือ อยากมีสุขภาพดี ดูดี อ่อนกว่าวัย 10 – 30 ปี
6.            คุณไม่อยากเป็นเหมือนคนทั่วไป ที่มีความเจ็บป่วย พิการ ดูเหมือนเป็นเรื่อง ธรรมดา” ที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ เช่น
·         อายุ 40 ปี เริ่มมีโรค เริ่มพบแพทย์
·         อายุ 50 ปี มีโรคเรื้อรัง เช่น โรคหัวใจ เบาหวาน ความดันโลหิตสูง ต้องกินยาตลอดชีวิต
·         อายุ 60 ปี ต้องนอนโรงพยาบาล เป็นมะเร็ง หรือผ่าตัด เสียเงินอีกหลายแสนบาท
·         อายุ 70 ปี ต้องนอนโรงพยาบาลนาน 2 – 3 เดือน หรือนอน ICU
·         อายุ 80 ปี พิการ อัมพาต นอนบนเตียงตลอดชีวิต หรือตาย

คุณรู้หรือไม่?
การรักษาสุขภาพแบ่งออกเป็น ประเภทใหญ่ๆ คือ
1.            Preventive Medicine  เป็นการแพทย์ที่เน้นการป้องกันไม่ให้เกิดโรคขึ้น
2.            Curative Medicine     เป็นการแพทย์ที่เน้นการรักษาเมื่อเกิดโรคแล้ว
แล้วคุณล่ะเลือกอยู่กลุ่มไหน
— ป้องกันก่อนเป็น —
หรือ
   — 
เป็นแล้วค่อยรักษา —
     จริงๆ แล้วคุณสามารถป้องกันได้ทั้งหมด ด้วยการดูแลเซลล์ให้แข็งแรงอยู่เสมอ กระตุ้นเม็ดเลือดขาวให้คอยต่อต้านอนุมูลอิสระ ไม่ให้ส่วนไหนของร่างกายอ่อนแอ แต่ถ้าทำไม่ได้ สารอาหาร จึงจำเป็น
เหตุผลในการเลือกกินผลิตภัณฑ์ อาหารเสริม ของคนทั่วไป อันดับแรก
1.            ดีต่อสุขภาพ                          25.5 %
2.            แข็งแรงไม่เจ็บป่วยง่าย             24.0 %
3.            มีภูมิต้านทานโรค                    12.5 %
4.            มีประโยชน์ต่อร่างกาย                9.0 %
5.            ไม่อยากอ้วน / ควบคุมน้ำหนัก     4.0 %




No comments:

Post a Comment